หน้าเว็บ

Share!!

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

10 วิธีเพิ่ม Productivity ในการทำงานให้พุ่งกระฉูด

10 วิธีเพิ่ม Productivity ในการทำงานให้พุ่งกระฉูด

## 10 วิธีเพิ่มProductivity ในการทำงานให้พุ่งกระฉูด ✨

ในยุคที่การแข่งขันสูง งานเยอะ และเวลาจำกัด การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือมี Productivity ที่สูงขึ้น ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เราสามารถจัดการงานทั้งหมดได้ทันตามกำหนด มีเวลาเหลือไปพัฒนาตัวเอง และยังคงรักษาสมดุลชีวิตที่ดีได้

Productivity ไม่ใช่แค่การทำงานให้หนักขึ้น แต่คือการทำงานให้ *ฉลาดขึ้น* บทความนี้จะนำเสนอ 10 เทคนิคที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้อย่างมหาศาล ลองนำไปปรับใช้ แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลง 👇

1. วางแผนวันทำงานให้ชัดเจน 📅

การเริ่มต้นวันโดยไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง หรือทำอะไรก่อนหลัง ก็เหมือนการขับรถโดยไม่มีแผนที่ การวางแผนล่วงหน้าไม่กี่นาทีในตอนเช้า หรือในคืนก่อนหน้า จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของงานที่จะต้องทำ จัดลำดับความสำคัญ และจัดสรรเวลาได้อย่างเหมาะสม

เทคนิค:

  • ใช้เวลา 10-15 นาทีในตอนเช้า หรือก่อนเลิกงาน จัดทำรายการสิ่งที่ต้องทำ (To-Do List) สำหรับวันนั้น หรือวันถัดไป

2. จัดลำดับความสำคัญของงาน (Prioritization)

งานทุกชิ้นไม่ได้สำคัญเท่ากัน การพยายามทำงานทุกอย่างพร้อมกัน หรือทำงานที่ง่ายก่อนเสมอ อาจทำให้งานที่สำคัญจริงๆ ค้างอยู่ การจัดลำดับความสำคัญช่วยให้คุณโฟกัสกับงานที่สร้างผลกระทบสูงสุด หรือมีความเร่งด่วนที่สุดก่อน

เทคนิค:

  • ลองใช้หลักการแบ่งงานตามความเร่งด่วนและความสำคัญ (เช่น Urgent/Important Matrix ของ Eisenhower) หรือใช้หลัก ABC (A = สำคัญมาก ต้องทำวันนี้, B = สำคัญรองลงมา ทำได้ถ้ามีเวลา, C = ทำเมื่อมีเวลาเหลือ)

3. ใช้เทคนิคบริหารเวลา (Time Management Techniques) ⏱️

สมองของเรามีขีดจำกัดในการจดจ่อ การทำงานต่อเนื่องยาวนานโดยไม่หยุดพักอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง เทคนิคบริหารเวลาช่วยให้คุณทำงานเป็นช่วงๆ และมีเวลาพักสั้นๆ ทำให้สมองได้พักและรีเฟรช

เทคนิค:

  • ลองใช้เทคนิค Pomodoro (ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที ทำซ้ำ 4 ครั้งแล้วพักยาวขึ้น) หรือ Time Blocking (จัดสรรช่วงเวลาที่แน่นอนให้กับแต่ละกิจกรรมหรือประเภทของงาน)

4. กำจัดสิ่งรบกวน (Eliminate Distractions) 📵

โทรศัพท์มือถือ, การแจ้งเตือนอีเมล, แชท, หรือโซเชียลมีเดีย คือตัวขัดสมาธิชั้นดีที่ทำลายสมาธิและกินเวลาของคุณไปอย่างเงียบๆ การลดสิ่งรบกวนเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มสมาธิและทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น

เทคนิค:

  • ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นทั้งหมด วางโทรศัพท์ไว้ไกลตัวช่วงที่ต้องการสมาธิอย่างเต็มที่ แจ้งเพื่อนร่วมงานว่าคุณต้องการเวลาโฟกัสงานในช่วงสั้นๆ

5. พักผ่อนอย่างถูกจังหวะ (Take Regular Breaks)

ฟังดูขัดแย้ง แต่การพักผ่อนระหว่างทำงานนั้นสำคัญมาก การทำงานต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักทำให้สมองล้า ประสิทธิภาพลดลง และอาจนำไปสู่ภาวะหมดไฟ การพักสั้นๆ ช่วยให้คุณรีชาร์จพลังงานและกลับมาทำงานด้วยความสดชื่นขึ้น

เทคนิค:

  • ทุกๆ 60-90 นาที ให้ลุกขึ้นยืน เดินไปมา ยืดเส้นยืดสาย มองออกไปนอกหน้าต่าง หรือพักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์

6. ทำงานประเภทเดียวกันรวมกัน (Batch Similar Tasks) 📂

การสลับไปมาระหว่างงานที่แตกต่างกัน เช่น การตอบอีเมล การเขียนรายงาน การโทรศัพท์ ต้องใช้เวลาและพลังงานในการปรับเปลี่ยนบริบท การรวบรวมงานที่คล้ายกันมาทำต่อเนื่องกันจะช่วยลดเวลาที่เสียไปกับการเปลี่ยนโหมด

เทคนิค:

  • กำหนดช่วงเวลาเฉพาะสำหรับตอบอีเมลหรือตอบแชท, กำหนดช่วงเวลาสำหรับทำเอกสารต่างๆ, กำหนดช่วงเวลาสำหรับประชุม

7. จัดระเบียบพื้นที่ทำงาน (Organize Your Workspace) 🗄️

โต๊ะทำงานที่รก หรือไฟล์ในคอมพิวเตอร์ที่กระจัดกระจาย ทำให้เสียเวลาในการค้นหาสิ่งที่ต้องการ และยังสร้างความเครียดและรบกวนสมาธิ การจัดระเบียบพื้นที่ทำงานทั้งแบบจับต้องได้และแบบดิจิทัลช่วยให้คุณทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้น

เทคนิค:

  • จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย มีแต่สิ่งที่จำเป็น ใช้ระบบจัดเก็บเอกสารหรือไฟล์ดิจิทัลที่ค้นหาง่าย ทำความสะอาดพื้นที่ทำงานเป็นประจำ

8. เริ่มวันด้วยงานที่สำคัญหรือยากที่สุด (Eat the Frog) 🐸

Mark Twain กล่าวว่า "ถ้างานของคุณคือการกินกบ การกินมันซะตั้งแต่เช้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด" หมายถึงการจัดการงานที่ยากที่สุด หรือเป็นงานที่คุณไม่อยากทำ ให้เสร็จเป็นอย่างแรกของวัน ในขณะที่คุณยังมีพลังงานและสมาธิเต็มที่

เทคนิค:

  • เลือกงานที่ท้าทายหรือสำคัญที่สุด 1 ชิ้นจาก To-Do List ของคุณ แล้วทำมันให้เสร็จก่อนที่จะไปทำงานอื่นๆ

9. ใช้เครื่องมือและแอปพลิเคชันช่วย (Utilize Tools and Apps) 📱

มีเครื่องมือและแอปพลิเคชันมากมายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่ม Productivity ไม่ว่าจะเป็นแอปจัดการรายการสิ่งที่ต้องทำ, แอปบริหารโปรเจกต์, แอปบล็อกเว็บไซต์ที่รบกวนสมาธิ, หรือเครื่องมือช่วยจัดระเบียบ

เทคนิค:

  • ลองหาเครื่องมือที่เหมาะสมกับลักษณะงานของคุณ เช่น Trello, Asana, Notion (บริหารโปรเจกต์), Forest (บล็อกสิ่งรบกวน), Google Calendar (วางแผนเวลา)

10. ดูแลสุขภาพกายและใจ (Take Care of Your Health) ❤️

ปัจจัยพื้นฐานอย่างการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ, การรับประทานอาหารที่ไม่ดี, หรือการไม่ออกกำลังกาย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระดับพลังงาน สมาธิ และความสามารถในการทำงานของคุณ การดูแลสุขภาพกายและใจจึงเป็นรากฐานสำคัญของ Productivity ที่ยั่งยืน

เทคนิค:

  • นอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, รับประทานอาหารที่มีประโยชน์, และหาวิธีจัดการความเครียด เช่น การทำสมาธิ หรือการหากิจกรรมที่ชอบทำ

การเพิ่ม Productivity ในการทำงานเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ลองนำทั้ง 10 เทคนิคนี้ไปปรับใช้กับรูปแบบการทำงานของคุณ เริ่มจากข้อที่คิดว่าง่ายและเห็นผลเร็วที่สุดก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเทคนิคอื่นๆ เข้าไป Productivity ที่พุ่งกระฉูดจะนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีเวลามากขึ้น และมีความสุขในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน! 🎉

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น