เชื่อว่าหลายคนคงเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเจองานกองโต รายงานที่ใกล้จะส่ง โปรเจกต์ที่ต้องรีบทำ หรือแม้แต่งานบ้านง่ายๆ แต่กลับรู้สึกไม่มีแรงบันดาลใจที่จะเริ่มทำเลยสักนิด สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเลื่อนไปก่อน แล้วค่อยทำวันหลัง... ซึ่ง "วันหลัง" นั่นแหละที่ไม่เคยมาถึง จนงานพอกพูนจนน่าปวดหัว นี่แหละคือการ ผัดวันประกันพรุ่ง อาการยอดฮิตที่ทำให้เราพลาดโอกาสหลายอย่างในชีวิต การผัดวันประกันพรุ่งไม่ใช่แค่เรื่องของความขี้เกียจ แต่มักมีสาเหตุมาจากความรู้สึกท่วมท้นกับงานที่ใหญ่เกินไป กลัวว่าจะทำได้ไม่ดีพอ หรือขาดแรงจูงใจที่จะเริ่ม แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะนี่คือนิสัยที่เราสามารถฝึกฝนเพื่อเปลี่ยนแปลงได้ ลองมาดู 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่ง และลงมือทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้ตามเป้าหมาย งานที่ดูเหมือนภูเขาลูกใหญ่ อาจทำให้เรารู้สึกท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ด้วยการแบ่งงานใหญ่ให้เป็นงานย่อย หรือภารกิจย่อยๆ ที่ใช้เวลาไม่นาน เช่น หากต้องเขียนรายงาน 20 หน้า ให้แบ่งเป็น หาข้อมูล, วางโครงสร้าง, เขียนบทนำ, เขียนบทที่ 1, เขียนบทที่ 2 ... ไปเรื่อยๆ การได้เห็นรายการงานย่อยๆ ที่ทำเครื่องหมายว่า "เสร็จแล้ว" ทีละข้อ จะช่วยให้คุณรู้สึกว่างานคืบหน้า และมีกำลังใจที่จะทำต่อไป หลายครั้งที่เราผัดงานออกไป เพราะรอเวลาที่เหมาะสม รอให้รู้สึกพร้อม หรือรอให้มีแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม ซึ่งเวลาเหล่านั้นอาจไม่เคยมาถึง เคล็ดลับคือ "แค่เริ่ม" กำหนดให้ตัวเองเริ่มทำภารกิจนั้นแค่ 5 นาทีแรก ไม่ต้องคิดถึงว่าจะทำทั้งหมดให้เสร็จ แค่ลงมือทำก้าวแรก เช่น แค่เปิดไฟล์งานขึ้นมา, แค่เขียนหัวข้อแรก, แค่เตรียมอุปกรณ์ การได้เริ่มทำเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยทำลายกำแพงความเฉื่อย และหลายครั้งเมื่อเริ่มแล้ว คุณมักจะรู้สึกอยากทำต่อไปจนเสร็จ เทคนิค Pomodoro คือการทำงานแบบโฟกัสเป็นช่วงสั้นๆ สลับกับการพัก เช่น ทำงาน 25 นาที แล้วพัก 5 นาที ทำซ้ำไปเรื่อยๆ เทคนิคนี้ช่วยให้สมองได้พักเป็นระยะ ไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป และการทำงานเป็นช่วงเวลาที่จำกัดก็ช่วยให้เราโฟกัสได้ดีขึ้น หรือจะใช้เทคนิค Time Blocking คือการบล็อกช่วงเวลาที่ชัดเจนในตารางงานเพื่อทำงานบางอย่างโดยเฉพาะ เช่น กำหนดว่า 9:00-10:30 น. จะใช้เวลานี้เพื่อทำโปรเจกต์ A เท่านั้น การกำหนดเวลาที่แน่นอนจะช่วยสร้างวินัยและลดโอกาสในการถูกสิ่งอื่นแทรกแซง สภาพแวดล้อมมีผลอย่างมากต่อการทำงาน หากคุณรู้ตัวว่ามักจะถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้าง ลองหาวิธีกำจัดสิ่งรบกวนเหล่านั้น เช่น ปิดแจ้งเตือนบนมือถือ, ปิดแท็บที่ไม่เกี่ยวข้องบนคอมพิวเตอร์, หาที่ทำงานที่เงียบสงบ, หรือแม้กระทั่งบอกคนรอบข้างว่าคุณต้องการเวลาโฟกัส การลดสิ่งรบกวนจะช่วยให้คุณมีสมาธิกับงานตรงหน้าได้เต็มที่ และทำงานเสร็จเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ การให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ เมื่อทำภารกิจย่อยๆ หรือบรรลุเป้าหมายเล็กๆ ได้สำเร็จ จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณอยากลงมือทำมากขึ้น รางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นของใหญ่โต อาจจะเป็นแค่การได้พักดื่มกาแฟแก้วโปรด, ได้ดูซีรีส์สั้นๆ สักตอน, หรือได้พักสายตาเล่นโซเชียลมีเดียสักครู่ การให้รางวัลตัวเองจะช่วยให้สมองเชื่อมโยงการทำงานกับการได้รับสิ่งดีๆ ทำให้การลงมือทำสิ่งต่างๆ ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป การเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งต้องอาศัยความตั้งใจและการฝึกฝน ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มจากงานง่ายๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความท้าทาย เมื่อคุณเริ่มเห็นผลลัพธ์จากการลงมือทำทันที และจัดการงานต่างๆ ได้สำเร็จ ชีวิตของคุณก็จะง่ายขึ้น มีความเครียดน้อยลง และมีความสุขกับการได้เห็นความก้าวหน้าของตัวเองมากขึ้น อย่ารอช้า! เลิกขี้เกียจ แล้วลงมือทำตั้งแต่วันนี้เลย!เลิกขี้เกียจได้แล้ว! 5 วิธีเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่ง
1. แบ่งงานใหญ่ให้เป็นงานย่อยที่จัดการได้
2. เริ่มทำทันที แค่ 5 นาทีแรก
3. ใช้เทคนิค Pomodoro หรือ Time Blocking
4. กำจัดสิ่งรบกวนรอบข้าง
5. ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ (แม้จะเป็นเป้าหมายเล็กๆ)
รวมบทความความรู้ เทคนิคหารายได้ออนไลน์ และการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดในยุคดิจิทัล
Share!!
วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
เลิกขี้เกียจได้แล้ว! 5 วิธีเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่ง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น